อะไรคือปัจจัยที่ผลักดันราคาทองคำ 18K ในปี 2025? คำแนะนำสำหรับผู้ค้าทองคำและเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ทองคำ
- Pasinee J
- 24 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที
สำหรับเจ้าของร้านทองหรือเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่การเข้าใจว่าทำไมราคาทองคำ 18K ถึงขึ้นหรือลง ไม่ใช่แค่ “เรื่องน่ารู้” — แต่เป็น “เรื่องจำเป็น” ทางธุรกิจ
วันนี้เราจะพาคุณมาเจาะลึกว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำ 18K ขยับตัวในปี 2025 และผู้ค้าควรปรับตัวยังไงให้ได้เปรียบ
📈 1. แนวโน้มราคาทองคำโลก: สูงแต่ผันผวน
ต้นปี 2025 ราคาทองคำยังคงอยู่ในระดับสูง ใกล้เคียงหรือเกิน 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์(KITCO) ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ ปัจจัยหลักได้แก่:
เงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นักลงทุนหันมาถือทองคำมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม การเมือง และความขัดแย้งต่างๆ ส่งผลให้นักลงทุนหันหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทอง
💡 แปลว่าอะไรกับคุณ? ต้นทุนวัสดุพื้นฐานของทอง 18K จะยังคงสูงอยู่ — คุณควรตั้งราคาขายให้สะท้อนคุณค่าและอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจถึงความคุ้มค่าในความบริสุทธิ์และงานฝีมือ
🇹🇭 2. ค่าเงินผันผวนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ค่าเงินในหลายประเทศ เช่น บาทไทย ด่องเวียดนาม เปโซฟิลิปปินส์ มีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อราคาทองในประเทศ
ค่าเงินอ่อน = ราคาทองนำเข้าสูงขึ้น
ดอลลาร์แข็ง = ราคาขายต่อในประเทศสูงขึ้น
💡 เคล็ดลับ: หากคุณนำเข้าทองคำหรือสร้อยทองจากอิตาลี ติดตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด และวางแผนสต็อกช่วงที่เรทดี
🏭 3. ปัญหาซัพพลายเชนและภาษีนำเข้า
ในหลายประเทศ การนำเข้าสินค้าทองคำมี ภาษีนำเข้าและ VAT ที่สูง เช่นในฟิลิปปินส์ ภาษีเครื่องประดับทองสำเร็จรูปอาจสูงถึง 15–25%
ปี 2025:
ค่าขนส่งและเวลาเดินทาง จากยุโรปยังคงล่าช้า
ซัพพลายเออร์จากอิตาลีและตุรกีเริ่มปรับราคาสูงขึ้น จากต้นทุนแรงงานที่เพิ่ม
💡 คำแนะนำ: เลือกทำงานกับซัพพลายเออร์ที่คุณไว้ใจได้ และสามารถให้เงื่อนไขที่ยืดหยุ่น เช่น
ไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ (No MOQ)
สามารถคละแบบได้หลากหลาย
รวมจัดส่งในรอบเดียวเพื่อลดต้นทุน
การมีพาร์ตเนอร์ที่เข้าใจธุรกิจของคุณ จะช่วยให้คุณบริหารสต็อกง่ายขึ้น ขายได้เร็วขึ้น และไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเกินจำเป็น


ความคิดเห็น